เมื่อใดก็ตามที่คุณสังเกตเห็นว่าราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ไม่ได้ขยับขึ้นหรือลงมากนักและดูเหมือนจะติดอยู่ในช่วงหนึ่ง คุณอาจเห็นตลาดเคลื่อนไหวในแนวนอน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวในแนวนอน โดยไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนในทั้งสองทิศทาง โดยพื้นฐานแล้ว ราคาจะแกว่งไปมาระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงโดยรวมเพียงเล็กน้อย ซึ่งแตกต่างจากตลาดที่มีแนวโน้มซึ่งราคาจะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่อง ตลาดเคลื่อนไหวในแนวนอนบ่งบอกถึงช่วงเวลาแห่งความลังเลใจ ซึ่งไม่มีทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่มีอิทธิพลเหนือตลาด อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตลาดไซด์เวย์คืออะไร?
ตลาดเคลื่อนไหวในแนวนอนคือเมื่อราคาหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือสินทรัพย์อื่นๆ อยู่ในช่วงราคาหนึ่งๆ และไม่แสดงแนวโน้มขึ้นหรือลงที่ชัดเจน แทนที่จะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอย่างต่อเนื่อง ราคาจะเด้งกลับระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด ทำให้เกิดรูปแบบแนวนอนแบนราบ ซึ่งหมายความว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงและคาดเดาได้ภายในช่วงราคานั้น ตลาดเคลื่อนไหวในแนวนอนมักเป็นสัญญาณของช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนหรือความสมดุลในตลาด
วิธีการระบุตลาดที่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวด้านข้าง
หากต้องการระบุตลาดที่มีการเคลื่อนไหวด้านข้าง ให้มองหาสัญญาณสำคัญเหล่านี้:
- ช่วงราคาคงที่: ราคาเคลื่อนไหวขึ้นและลงภายในช่วงที่กำหนด โดยเด้งกลับระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดโดยไม่ทะลุผ่านอย่างมีนัยสำคัญ
- เส้นแนวโน้มแนวนอน: วาดเส้นแนวโน้มเหนือจุดสูงสุดและต่ำกว่าจุดต่ำสุดของการเคลื่อนไหวของราคา หากเส้นเหล่านี้เกือบเป็นแนวนอนและขนานกัน แสดงว่าตลาดอยู่ในแนวข้าง
- ขาดทิศทางที่ชัดเจน : ราคาไม่แสดงแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่สม่ำเสมอในช่วงเวลาหนึ่ง แต่กลับผันผวนภายในช่วงเดียวกัน
- แนวรับและแนวต้าน levels : สังเกตว่าราคาจะทะลุระดับแนวรับ (จุดต่ำสุด) และแนวต้าน (จุดสูงสุด) เดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จะไม่ทะลุผ่านระดับเหล่านี้
ข้อดีและข้อจำกัดของตลาดไซด์เวย์
ผลประโยชน์ | ข้อจำกัด |
---|---|
ช่วงการซื้อขายที่คาดเดาได้: ผู้ซื้อขายสามารถใช้ระดับแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจนเพื่อทำการซื้อขายที่คาดเดาได้มากขึ้น พวกเขาสามารถซื้อใกล้ระดับแนวรับและขายใกล้ระดับแนวต้าน ทำให้กำหนดจุดเข้าและจุดออกได้ง่ายขึ้น | ศักยภาพ กำไร มีจำกัด : เนื่องจากราคาไม่ได้เป็นแนวโน้ม โอกาสในการทำกำไรได้มากจึงมีน้อยลง ผู้ซื้อขายอาจพบว่าการได้รับผลตอบแทนที่สำคัญนั้นเป็นเรื่องท้าทายเมื่อเทียบกับตลาดที่เป็นแนวโน้ม |
ลดความเสี่ยงของการขาดทุนครั้งใหญ่: เนื่องจากราคาไม่มีแนวโน้มรุนแรงในทิศทางเดียว ความเสี่ยงของการสูญเสียอย่างมีนัยสำคัญจากการกลับตัวของตลาดกะทันหันจึงลดลง สิ่งนี้อาจสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับ นักลงทุน บางราย | ขาดโมเมนตัม : ตลาดที่เคลื่อนไหวในแนวข้างไม่มีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง ทำให้ยากต่อการระบุแนวโน้มใหม่หรือใช้ประโยชน์จากโอกาสการทะลุแนวรับ สิ่งนี้สร้างความหงุดหงิดให้กับ ผู้ซื้อขาย ที่กำลังมองหาการเคลื่อนไหวตามทิศทางที่ชัดเจน |
โอกาสในการซื้อขายแบบเป็นช่วง : นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากการแกว่งของราคาภายในช่วงได้ กลยุทธ์การซื้อขาย เช่น การซื้อต่ำและการขายสูงในช่วง สามารถมีประสิทธิภาพในตลาดไซด์เวย์ | ความสับสนและความไม่แน่นอน: นักลงทุน อาจประสบปัญหากับการตัดสินใจที่ผิดพลาดและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเวลาที่ตลาดจะทะลุกรอบแนวรับ ซึ่งอาจนำไปสู่ความลังเลใจและพลาดโอกาสดีๆ ไป |
จะทำการซื้อขายในตลาดแนวนอนได้อย่างไร?
การซื้อขายในตลาดแนวข้างเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายในช่วงที่ราคาผันผวนระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด นี่คือวิธีที่คุณสามารถซื้อขายในตลาดแนวข้างโดยใช้ ราคา Ethereum เป็นตัวอย่าง:
- ระบุช่วง: ก่อนอื่น ให้ระบุช่วงที่สินทรัพย์กำลังซื้อขาย สมมติว่าสินทรัพย์อยู่ระหว่าง 2,800 ดอลลาร์ (แนวรับ) และ 3,200 ดอลลาร์ (แนวต้าน) ซึ่งหมายความว่าราคามีแนวโน้มที่จะเด้งกลับระหว่างสองระดับนี้โดยไม่มีแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจน
- ซื้อที่แนวรับ : เมื่อราคาสินทรัพย์เข้าใกล้ระดับล่างของช่วงราคา (ประมาณ 2,800 ดอลลาร์) เรียกว่าระดับแนวรับ คุณสามารถซื้อสินทรัพย์ตรงนี้ได้เนื่องจากมีแนวโน้มว่าราคาจะกลับขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน
- ขายที่แนวต้าน: เมื่อราคาสินทรัพย์แตะระดับสูงสุดของช่วงราคา (ประมาณ 3,200 ดอลลาร์) จุดนี้จะเรียกว่าแนวต้าน คุณสามารถขายสินทรัพย์ตรงนี้ได้เนื่องจากมีแนวโน้มว่าราคาจะตกลงมาที่ระดับแนวรับ
- กำหนดคำสั่งตัดขาดทุน : เพื่อจัดการความเสี่ยง ให้ตั้งคำสั่งตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าระดับแนวรับเล็กน้อย (เช่น 2,750 ดอลลาร์) ซึ่งจะช่วยให้คุณจำกัดการขาดทุนได้หากราคาทะลุลงต่ำกว่าช่วงที่คาดไว้
- ติดตามตลาด : คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของราคาและข่าวสารต่างๆ หากราคาของสินทรัพย์ทะลุกรอบที่กำหนดไว้ (ไม่ว่าจะสูงกว่า 3,200 ดอลลาร์หรือต่ำกว่า 2,800 ดอลลาร์) อาจเป็นสัญญาณของแนวโน้มใหม่ ดังนั้นให้ปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสม
การซื้อใกล้แนวรับและขายใกล้แนวต้านจะช่วยให้คุณได้เปรียบจากความผันผวนของราคาในช่วงข้างเคียง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าผลงานในอดีตไม่ได้บ่งชี้ถึงผลงานในอนาคต และสภาวะตลาดอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่สามารถคาดเดาได้
สรุป
ในขณะที่ตลาดเคลื่อนไหวในแนวข้างอาจเสนอโอกาสในการซื้อขายที่คาดเดาได้พร้อมระดับแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าหาตลาดด้วยความระมัดระวัง การไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนหมายความว่ากำไรอาจจำกัด และราคาอาจเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน ผู้ซื้อขายควรติดตามช่วงราคาอย่างระมัดระวังและเตรียมพร้อมสำหรับ การฝ่าแนวต้าน ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางของตลาด การใช้กลยุทธ์เช่นการซื้อขายในช่วงราคาและการตั้งคำสั่งตัดขาดทุนอาจช่วยจัดการความเสี่ยงและใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาได้ แหล่งที่มา: investopedia.com
สไตล์การเทรดของคุณคืออะไร?
ไม่ว่าสนามแข่งขันจะเป็นอย่างไร การรู้จักสไตล์ของคุณคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ