ในด้านการเงิน อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) เป็นตัวชี้วัดที่มักจะทำหน้าที่ชี้แนะนักลงทุนและ เทรดเดอร์ ในการตัดสินใจลงทุน เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินมูลค่าของการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า IRR คืออะไร อธิบายวิธีการทำงาน อภิปรายถึงความสำคัญของ IRR สำหรับเทรดเดอร์ และชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย
อัตราผลตอบแทนภายในคืออะไร?
อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่ใช้ในการประเมินความน่าดึงดูดใจของการลงทุนหรือโครงการ โดยแสดงถึงอัตราผลตอบแทนทบต้นที่มีประสิทธิผลเป็นรายปี ซึ่งทำให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของกระแสเงินสดทั้งหมด (ทั้งไหลเข้าและไหลออก) จากการลงทุนหนึ่งๆ มีค่าเท่ากับศูนย์ พูดง่ายๆ ก็คือ IRR คืออัตราการเติบโตที่คาดหวังซึ่งการลงทุนคาดว่าจะเกิดขึ้น
IRR ทำงานอย่างไร?
สูตร:
0 = NPV = ∑ กะรัต (1+ IRR)t
C = กระแสเงินสดสุทธิเข้าในระหว่างงวด t
IRR = อัตราผลตอบแทนภายใน
t = จำนวนช่วงเวลา
IRR คืออัตรา (r) ที่ทำให้สมการ NPV สมดุลเป็นศูนย์ เนื่องจากสูตร IRR ไม่สามารถแก้พีชคณิตได้ จึงมักคำนวณผ่านการลองผิดลองถูก หรือใช้ซอฟต์แวร์ที่มีฟังก์ชันทางการเงิน
สัมผัสประสบการณ์แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Skilling
ลองใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายของ Skilling บนอุปกรณ์ที่คุณเลือกผ่านเว็บ Android หรือ iOS
ทำไม IRR จึงมีความสำคัญสำหรับเทรดเดอร์
อัตราผลตอบแทนภายในเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการซื้อขาย เนื่องจากมีตัวชี้วัดเชิงปริมาณเพื่อประเมินความสำเร็จที่อาจเกิดขึ้นของการลงทุน แม้ว่าจะมีข้อได้เปรียบในแง่ของการวัด ROI ที่เป็นมาตรฐาน และการพิจารณามูลค่าตามเวลาของเงิน นักเทรดก็ต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของมันด้วย ไม่ควรใช้แยกกัน แต่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ที่กว้างขึ้นซึ่งรวมถึงตัวชี้วัดทางการเงินและปัจจัยเชิงคุณภาพอื่นๆ
สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลมากที่สุด การทำความเข้าใจและการใช้ IRR ร่วมกับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ คือกุญแจสำคัญ สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดล่าสุดและกลยุทธ์การลงทุน การทำเช่นนี้ เทรดเดอร์สามารถนำทางความซับซ้อนของตลาดการเงินได้อย่างมั่นใจและแม่นยำยิ่งขึ้น
- การเปรียบเทียบการลงทุน: IRR ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดอันดับการลงทุนตามผลตอบแทนที่เป็นไปได้ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบโครงการที่มีอายุการใช้งานหรือค่าใช้จ่ายด้านทุนที่แตกต่างกัน
- การจัดทำงบประมาณเงินทุน: ผู้ค้าใช้ IRR เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการโครงการหรือการลงทุนต่อไป โดยทั่วไปโครงการจะถือว่าเป็นไปได้หาก IRR สูงกว่าต้นทุนเงินทุน
- การวัดประสิทธิภาพ: สำหรับเทรดเดอร์ IRR คือมาตรวัดการเติบโตของการลงทุนเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งเป็นวิธีการวัดและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการลงทุนต่างๆ
- การตัดสินใจโดยมีข้อมูลครบถ้วน: IRR ให้ภาพรวมของผลตอบแทนจากการลงทุนที่เป็นไปได้ ซึ่งอาจมีความสำคัญสำหรับการตัดสินใจซื้อขายโดยมีข้อมูลครบถ้วน
S/N | ข้อดีของ IRR | ข้อเสียของ IRR |
---|---|---|
1. | มูลค่าเงินตามเวลา: IRR คำนึงถึงมูลค่าเงินตามเวลา โดยตระหนักว่าเงินดอลลาร์ในปัจจุบันมีค่ามากกว่าเงินดอลลาร์ในอนาคต | การคาดการณ์ในแง่ดีมากเกินไป: IRR ถือว่ากระแสเงินสดในอนาคตสามารถนำไปลงทุนใหม่ได้ในอัตราเดียวกับ IRR ซึ่งอาจไม่เป็นความจริงเสมอไป |
2. | อัตราผลตอบแทน: ให้เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนที่ชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการสื่อสารและทำความเข้าใจ | ข้อจำกัดด้านเมตริกเดียว: การใช้ IRR เพียงอย่างเดียวอาจทำให้เข้าใจผิดได้ เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงขนาดของการลงทุน |
ครอบคลุม: IRR พิจารณากระแสเงินสดทั้งหมดของการลงทุน โดยเสนอมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลตอบแทนที่เป็นไปได้ | การละเว้นปัจจัยภายนอก: การคำนวณ IRR จะไม่พิจารณาปัจจัยภายนอก เช่น สภาวะตลาดหรือการเปลี่ยนแปลงต้นทุนเงินทุน | |
4. | ใช้ได้ในระดับสากล: สามารถใช้กับการลงทุนประเภทต่างๆ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบในระดับที่เท่าเทียมกัน | IRR หลายรายการ: โครงการที่มีกระแสเงินสดหมุนเวียนอาจมี IRR หลายรายการ ทำให้เกิดความสับสนและการตีความที่ผิด |
พัฒนาความเชี่ยวชาญด้านการเทรดของคุณด้วย Skilling
พร้อมที่จะยกระดับการซื้อขายของคุณไปอีกระดับแล้วหรือยัง? Skilling นำเสนอแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมที่นำเสนอ CFD ซึ่งช่วยให้คุณมีเครื่องมือ ทรัพยากร และความรู้เพื่อนำทางในตลาดการเงินอย่างมั่นใจ