Bearish divergence คืออะไร?
ไม่ว่าคุณจะทำการซื้อขาย cryptocurrencies, stocks, Forex หรือแม้แต่ commodities คุณเคยสังเกตไหมว่าราคายังคงสูงขึ้น แต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณของ bearish divergence พูดง่ายๆ ก็คือ bearish divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์ไปถึงจุดสูงสุดที่สูงขึ้น แต่ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอย่าง Relative Strength Index (RSI) กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง ความไม่ตรงกันนี้บ่งบอกว่าแม้ว่าตลาดจะดูเหมือนเป็นขาขึ้น แต่โมเมนตัมพื้นฐานกลับอ่อนตัวลง นี่อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า bearish divergence คืออะไร ให้ตัวอย่าง แสดงให้คุณเห็นถึงวิธีการระบุ bearish divergence ในการซื้อขายของคุณ และเปรียบเทียบกับ bullish divergence เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ตัวอย่างของ divergence ที่เป็นขาลง
กราฟนี้ใช้เพื่อการสาธิตเท่านั้น
สมมติว่า ราคา Ethereum ซื้อขายอยู่ที่ $2,500 และเริ่มเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยแตะ $2,600, $2,700, $2,800, $2900 และสุดท้ายคือ $3,000 การเคลื่อนไหวขาขึ้นนี้บ่งชี้ถึงจุดสูงสุดที่สูงขึ้นในแนวโน้มราคา ซึ่งบ่งบอกถึงตลาดกระทิง อย่างไรก็ตาม หากเราตรวจสอบ Relative Strength Index (RSI) ภาพที่แตกต่างก็จะปรากฏขึ้น RSI ซึ่งเริ่มต้นที่ 70 ลดลงเหลือ 65 จากนั้น 60, 58, 55 และสุดท้ายคือ 50 ทำให้เกิดจุดสูงสุดที่ต่ำลง
รูปแบบนี้ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในขณะที่ RSI ลดลงจนถึงจุดสูงสุดที่ต่ำลง เรียกว่า divergence ของขาลง แผนภูมิด้านบนแสดงแนวคิดนี้ได้อย่างชัดเจน กราฟด้านบนแสดงให้เห็นราคาของ Ethereum ที่ค่อยๆ ไต่ขึ้น ในขณะที่กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นว่า RSI ลดลง ความคลาดเคลื่อนนี้บ่งชี้ว่าแม้ราคาจะเพิ่มขึ้น แต่โมเมนตัมพื้นฐานของตลาดกำลังอ่อนลง
ความแตกต่างแบบหยาบคายทำหน้าที่เป็นสัญญาณเตือนว่า แนวโน้มขาขึ้น อาจไม่ยั่งยืน มันแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่น กระทิง กำลังสูญเสียความแข็งแกร่ง และการกลับตัวของราคาอาจใกล้เข้ามา เทรดเดอร์ใช้ข้อมูลนี้เพื่อคาดการณ์การขายที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นว่าจะออกจาก positions เมื่อใด หรือหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ตำแหน่งใหม่ที่ราคาสูงสุด
วิธีการระบุ divergence ที่เป็นขาลงเมื่อทำการซื้อขาย
นี่คือวิธีการระบุ:
- ตรวจสอบแนวโน้มราคา: เริ่มต้นด้วยการดูแผนภูมิราคาของ สินทรัพย์ หากราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ แสดงว่าสินทรัพย์กำลังไปถึงจุดสูงสุดใหม่
- ดูตัวบ่งชี้: จากนั้นตรวจสอบตัวบ่งชี้ที่คุณกำลังใช้ (เช่น RSI หรือ MACD) หากตัวบ่งชี้นี้สร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลงในขณะที่ราคากำลังเพิ่มขึ้น นี่คือ divergence ของแนวโน้มขาลง
- เปรียบเทียบจุดสูงสุด: โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้สังเกตจุดสูงสุดบนแผนภูมิราคาและจุดสูงสุดบนตัวบ่งชี้ สำหรับ divergence แบบขาลง จุดสูงสุดของราคาควรสูงกว่าในขณะที่จุดสูงสุดของตัวบ่งชี้ควรต่ำกว่า
- ตีความสัญญาณ: ความไม่ตรงกันนี้บ่งชี้ว่าถึงแม้ราคาของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น แต่ความแข็งแกร่งหรือโมเมนตัมที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นนี้กำลังอ่อนลง แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจหมดแรงลง และราคาอาจจะลดลงในอนาคต
การสังเกตเห็น divergence นี้จะทำให้คุณระมัดระวังในการซื้อหรือพิจารณาขายก่อนที่ราคาอาจลดลง
divergence ขาลงและขาขึ้น
อัตราส่วน | divergence ขาลง | divergence ขาขึ้น |
---|---|---|
คำนิยาม | เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ตัวบ่งชี้ทำจุดสูงสุดใหม่ต่ำลง | เกิดขึ้นเมื่อราคาทำจุดต่ำลง แต่ตัวบ่งชี้ทำจุดต่ำที่สูงขึ้น |
แนวโน้มราคา | ราคากำลังเพิ่มขึ้นทำให้เกิดยอดใหม่ | ราคากำลังลดลงและสร้างจุดต่ำใหม่ |
แนวโน้มตัวบ่งชี้ | ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (เช่น RSI, MACD) กำลังลดลง | ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (เช่น RSI, MACD) กำลังเพิ่มขึ้น |
สัญญาณบ่งชี้ | บ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นกำลังอ่อนตัว | บ่งบอกว่าโมเมนตัมขาลงเริ่มอ่อนตัวลง |
การดำเนินการที่มีศักยภาพ | ผู้ซื้อขายอาจพิจารณาขายหรือหลีกเลี่ยงการซื้อใหม่ | ผู้ซื้อขายอาจพิจารณาซื้อหรือปิดสถานะขายชอร์ต |
ตัวอย่าง | หากราคาสินทรัพย์แตะจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ไม่ถึงจุดสูงสุดใหม่ นี่คือ divergence ขาลง | หากราคาสินทรัพย์แตะจุดต่ำใหม่ แต่ RSI เริ่มสร้างจุดต่ำที่สูงขึ้น นี่คือ divergence ขาขึ้น |
สัมผัสประสบการณ์แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Skilling
ลองใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายของ Skilling บนอุปกรณ์ที่คุณเลือกผ่านเว็บ Android หรือ iOS
บทสรุป
แม้ว่า divergence ของราคาอาจส่งสัญญาณว่าราคาอาจลดลงได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังเมื่อทำการซื้อขายโดยอาศัยสัญญาณนี้เพียงอย่างเดียว การรวม divergence ของราคาเข้ากับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ และการวิเคราะห์ตลาดจึงมีความสำคัญ เพื่อยืนยันสัญญาณและหลีกเลี่ยงผลบวกปลอม การพึ่งพา divergence ของราคาเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีบริบทเพิ่มเติมอาจนำไปสู่การตัดสินใจซื้อขายก่อนเวลาอันควรหรือไม่ถูกต้อง ควรพิจารณาแนวโน้มตลาดโดยรวม ระดับแนวรับและแนวต้าน และใช้ การจัดการความเสี่ยง ที่เหมาะสมก่อนดำเนินการ
ที่มา: investopedia.com
คุณเป็นลูกค้า Skilling หรือยัง? สร้างบัญชีซื้อขาย CFD Skilling ฟรีวันนี้ และซื้อขายสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 1,200 รายการ เช่น หุ้น สกุลเงินดิจิทัล ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ ด้วยสเปรดและค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก